133 views
nekopost จอมมาร ปีศาจ ชินบุคิ หรือ ศาสตราวุธแห่งจิตใจ เป็นทักษะการต่อสู้ที่ใช้การเปลี่ยนพลังงานในร่างกาย ให้เป็นอาวุธแขนงต่างๆ, ชินบุคิ ที่เรียกออกมามีความแข็งแกร่งกว่าอาวุธทั่วๆไปมาก จึงมีการฝึกสอนกันอย่างแพร่หลาย โซมะ เคนอิจิ เด็กหนุ่มเพนจรที่ไม่เคยมีใครสอนการใช้พลังงาน แต่กลับเรียกชินบุคิออกมาใช้ได้ด้วยตนเอง ระหว่างที่โซมะถูกองค์กรที่ไม่รู้จักตามล่าอย่างไม่รู้สาเหตุ ระหว่างทางก็ได้พบกับอาจารย์ชื่อดังของมิยาซากิ จึงทำให้เขารู้ว่า ตนเองนั้นเป็นเด็กพิเศษที่เรียกกันว่า เท็นไซจิ เมื่อคำขออันไร้เหตุผลอย่างขอไปต่างโลกของชายหนุ่มอายุ 25 ปีเกิดขึ้นจริง เค้าจะถูกส่งไปโลกแบบไหนกันแน่ เพราะอะไรคำอธิษฐานของเค้าถึงเป็นจริง จอมมารในดินแดนเทพนิยายได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
จอมมาร คือ ตัวที่เก่งที่สุดและทำหน้าที่ปกครอง ปีศาจ และ สัตว์ประหลาด ส่วนปีศาจ จะพลีงน้อยกว่าจอมมารแต่มีความคิดที่เลวกว่า และ ปีศาจคือความมืดในใจมนุษย์ ส่วนสัตว์ประหลาด ก็ความหมายตรงตัวเลย คือ สัตว์ที่เกิดจากการทดลอง หรือ วิวัฒนาการจนทำให้รูปร่างแปลกไปจากเดิม แล้วก็ มาร กับ อสูร อสูรกาย คืออะไร หรือมันคืออันเดียวกัน และถ้าสมมุติว่าผมแต่งนิยาย แล้วสร้างตัวอะไรก็ได้ที่น่ากลัวขึ้นมา 1 ตัว ผมสามารถใช้คำเรียกว่า ปีศาจ หรือ อสูรกายได้ไหม พระเอกที่ถูกส่งมาเกิดใหม่แบบงงๆ ในต่างโลกที่มีจอมมารถึง72ตนพร้อมผู้กล้าอีก72คน แถม…ยังได้เกิดเป็นจอมมารคนสุดท้องที่ขึ้นชื่อว่าอ่อนแอที่สุดอีกด้วย…แต่ยังไงพระเจ้าก็อยากจะให้มันมาปฏิรูปรวบรวมกองทัพจอมมาร และเปลี่ยนแปลงโลกมนุษย์ทั้งใบ ปีศาจ สิ่งที่จับต้องไม่ได้หรือจับต้องได้
อสูรกาย สิ่งที่จับต้องได้เเน่นอนมีตัวตนเเน่นอน ปีศาจ และ จอมมาร มีสติสัมปชัญญะ มีความคิดความอ่านเหมือนมนุษย์ จอมมารก็ตามชื่อ ความสามารถจึงสูงกว่าปีศาจ สัตว์ประหลาด ก็ตามชื่อ เป็นสัตว์ อยู่ด้วยสัญชาตญาณดิบ มีแต่อารมณ์ ไม่มีความคิดความอ่านใดๆ เหมือนสัตว์ป่า แต่บางทีมนุษย์ก็โหดร้ายไม่แพ้ไปกว่าปีศาจและจอมมาร
ปิศาจ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Demon ซึ่งหมายถึงตัวตนที่อยู่อีกโลก (นรก) คอยล่อลวงมนุษย์ให้ทำสิ่งต่าง ๆ พวกนี้เป็นจำพวกเดียวกับมารที่ จขกท กล่าวถึง บางก็มีร่างเนื้อสามารถปรากฎตัวบนโลกได้ บางก็ไม่อาจจะปรากฎตัวบนโลกได้ ต้องอยู่ระหว่างโลกคนเป็นกับนรก หรือไม่ก็สิ่งสู่มนุษย์เท่านั้น
สัตว์ประหลาด ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Monster หมายถึงสัตว์ ที่รูปร่างประหลาดไปจากที่ควรจะเป็น สามารถจับต้องได้อสูรกายถูกจัดอยู่ในหมวดนี้ ยกตัวอย่าง มนุษย์หมาป่า แฟรงเก้นสไตล์ แวมไพร์ มัมมี่ พวกนี้ล้วนแต่ถูกเรียกว่า Monster ทั้งหมด
จอมมารนี่เป็น Cult ของฝั่งญี่ปุ่นครับ ฝรั่งจะมีแต่ขุนนางปิศาจ ยกตัวอย่าง 72 ปิศาจของโซโลมอน จะมีบาเอลเป็นจุดสูงสุด ก่อนที่จะกระจายอำนาจไปยังปิศาจตนต่างๆ ที่มียศน้อยกว่า ถ้าตามแนวของญี่ปุ่น ปีศาจทั้งหลายนี่ก็คือสิ่งมีชีวิตมีอารยธรรมแบบมนุษย์นั่นแหละแต่คนละเผ่าพันธุ์กัน
หรือเอารากของคำศัพท์อ่ะครับ ถ้านำมาใช้ในการแต่งเรื่องมันยังไงก็ได้
เพราะบางทีคนแต่งก็ใช้คำว่า มาร ปีศาจ อสูร เป็นคำเดียวกัน แล้วมี จอมมาร เจ้าปีศาจ เทพอสูร เป็นหัวหน้าอะไรแบบนี้
หรือจะเอาไว้เรียกคนละกลุ่มคนละอย่างกันก็ได้
เรื่องเอาไปเทียบกับคำภาษาต่างประเทศเช่นภาษาอังกฤษนั่นก็อีกคนละเรื่อง เพราะถ้าเอารากที่มาของคำศัพท์มันก็มีความหมายในตัวมันเอง
มาร (Mara) ก็อย่างนึง คือพวกมาร พวกเทวดาหลงผิดจิตใจต่ำช้า เป็นอมนุษย์ประเภทหนึ่ง ที่คอยสร้างความปั่นป่วน อาละวาด
ทำร้ายทำลายความสงบสุข ฆ่านั่นนี่แบบไม่มีเหตุผล บางทีก็ไปเข้ากับพวกรากษส พวกยักษ์ ทำความชั่วร้ายมากมาย
อสูร (Asura) ก็อย่างหนึ่ง คือพวกเทพสวรรค์พวกหนึ่งเคยครองดาวดึงส์ แต่แพ้ให้เทวดา เทพสวรรค์อีกพวกหนึ่งที่พระอินทร์นำทัพมาปราบ
แล้วเข้าแย่งชิงสวรรค์ขับไล่พวกอสูรลงไปอยู่ที่ต่ำ พอแพ้ก็เลยถูกว่าเป็นพวกน่าเกลียดน่ากลัวอย่างนั้นอย่างนี้ตามแต่คติของชนชาติ
ที่รับเอาไป บางทีก็ยังยกย่องเช่นญี่ปุ่นยังถือว่าอสูร(อาชูร่า)เป็นเทพแบบนึงแม้บางทีจะเป็นฝ่ายตรงข้ามพระโพธิสัตว์
ศาสนาดั้งเดิมของพวกเปอร์เซียก็ยังถือว่าอสูรชื่ออสูรมาสด้าเป็นพระเจ้าสูงสุด
ปีศาจ (Pishacha (Pizaca สันสกฤต)) ก็อย่างหนึ่ง เป็นจำพวกภูตผี ฆ่ากินเนื้อคนเนื้อสัตว์ เป็นพวกเดรัจฉานชั่วร้ายไม่มีมโนสำนึก
มีรูปร่างแตกต่างกันไปแล้วแต่เวรแต่กรรม แล้วแต่ความวิปริต
สัตว์ประหลาด ก็อย่างนึง คือสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์ที่พบเห็นทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเลวร้าย ที่ดีก็มี ม้าเพกาซัส ยูนิคอร์น สฟิงซ์
ก็เป็นสัตว์ประหลาด เนสซี คราเคน ก็อตซิลล่า ครุฑ นกกริฟฟิน ก็เป็นสัตว์ประหลาด หรือสัตว์ประหลาดที่ถูกสร้างขึ้นอะไร
แบบที่ จขกท.ว่ามาก็เป็นสัตว์ประหลาด
จอมมาร ก็คือมารที่แกร่งกว่าตัวอื่นเป็นหัวหน้าเป็นจ่าฝูง คอนเซปนี้ไม่ใช่มีแต่ญี่ปุ่น มันเป็นคอนเซปทางตะวันออกอยู่แล้ว
และทางตะวันตกก็มีเหมือนกัน อย่างซามาเอลหรือก็คือซาตาน อีกคนหนึ่งก็ลูซิเฟอร์(ที่คนมักเข้าใจผิดว่าเป็นซาตาน)อะไรแบบนี้
อสูรกาย ก็ย้อนกลับไปดูคำว่าอสูร ผสมกับคำว่า กาย ก็คือพวกมีกายเป็นอสูร อาจเป็นคำสมัยก่อนใช้เรียกพวกที่ไม่แน่ใจ
ไม่รู้เป็นอสูรหรือเปล่า อาจจะเป็นคน เป็นตัวประหลาด แต่น่าเกลียดน่ากลัว ดุร้าย ก็เรียกอสูรกาย
devil, demon, daemon, monster เองก็มีรากที่มาของคำต่างกันแต่เอามาเทียบเคียงเวลาแปลได้ เอาง่ายๆ อย่างคำว่า
demon ก็หมายถึงปีศาจจำพวกนึง ยืมรากศัพท์มาจากคำว่า daemon แต่ที่จริงเป็นคนละอย่าง daemon แต่ก่อนใช้เรียกพวกเทวดา
ด้วยซ้ำในภาษาของเจ้าของภาษาเค้า แต่ไปๆ มาๆ ก็ไว้เรียกปีศาจ เหมารวมกัน แถมให้คำอธิบายไม่เหมือนกับ devil ด้วย
แต่เวลาเอาไปใช้จริงๆมันไม่ต้องคิดมากเรื่องรายละเอียดพวกนี้ก็ได้ ถ้าเราไมไ่ด้แต่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตำนานที่มาที่ไปพวกนี้เป๊ะๆ
ถ้ามันเป็นสตอรี่ที่เราคิดขึ้นมาเองจะใช้ยังไงก็แล้วแต่ผู้แต่ง
คิดว่าสัตว์ประหลาดคือพวกสัตว์กลายพันธ์อะไรทำนองนี้ ถ้าสมมตินะ สมมติ เราไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับพวกสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์อย่างพวกไดโนเสาร์หรืออะไรทำนองนั้น เราก็คงจะมองว่ามันคือสัตว์ประหลาด เช่นเจอซากกระดูกของมัน ถ้าไม่มีนักวิทยศาตร์มาคอยเช็คหรือตรวจซากพวกนั้น คนปรกติแบบพวกเราคงมองว่ามันอยู่ในจำพวกเดียวกับ มอนสเตอร์ นั้นล่ะ
ส่วนปีศาจจริงๆ มันไม่ได้เว่อวังแบบมังงะหรือหนังที่เราดู ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นด้านมืดของคนมากกว่า แต่เพราะว่าเขาไม่รู้จะสื่อยังไงห้เห็นภาพเขาก็เลยตั้งชื่อขึ้นมาเพื่อให้คนกลัว แบบว่าถ้าเอ็งทำเลวปีศาจจะครอบงำเอ็งนะ ไอ้ครอบงำที่ว่าก็น่าจะเป็นความคิดของเราที่คิดเรื่องชั่วๆ นั้นล่ะ
ศาสนาคริสต์นี่นรกเปลี่ยนมาหลายครั้งแล้ว นับแต่ช่วงไม่กี่ร้อยปีแรกจนถึงตอนนี้
ยุคแรกคนบาปจะตกนรกนิรันดร์ ชาวบ้านก็เลยถาม ถ้าพลาดไปแล้วจะนับถือพระเจ้าอีกทำไม ยังไงก็ซวย
ในยุคต่อมาก็เลยมีแนวคิดเรื่องแดนชำระบาป (Purgatory) ขึ้นมา
คือคนบาปที่กลับใจเข้าหาพระเจ้า ไปซี้ดซ้าดที่นี่ซักแป๊บนึง หมดบาปแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ ส่วนนรกเป็นที่ของคนนอกศาสนากับคนไม่สำนึกตัว
ในยุคนึงก็มีแนวคิดใหม่ขึ้นมาอีก ว่าจริง ๆ แล้วนรกมันเป็นที่อยู่ของปิศาจ มีไว้ล่อลวงมนุษย์ ส่วนคนตายไปอยู่แดนชำระบาปแล้วค่อยขึ้นสวรรค์
จริง ๆ แล้วแนวคิดอย่างการทำสัญญากับปิศาจ เพิ่งจะมามีเอาไม่กี่ร้อยปีนี่เอง คือเรื่อง Faust ที่เป็นต้นแบบ แล้วก็ต่อยอดมาเป็นเรื่องอื่น ๆ
มันก็เหมือนนิทานที่แต่งต่อยอดไปเรื่อย ๆ เพื่อแถเวลาชาวบ้านถามว่าทำไมถึงมีเรื่องที่ขัดกับคำสอนเกิดขึ้นได้นั่นแหละ
หน้าตาและการลงโทษของแต่ละยุคไม่เหมือนกันเลย บาปที่จะโดนพระเจ้าลงโทษก็ไม่เหมือน
ซาตานคือ ทูตสวรรค์ที่ ชักจูง อดัมกับฮาวาให้หลงผิด เป็นผู้ต่อต้านพระเจ้า
ครั้งหนึ่ง ซาตาน ได้ท้าทายพระเจ้า ว่า ท่านก็ดีแต่ให้ผู้คนจึงศรัทธา ยามใดท่านทอดทิ้งพวกเขา พวกเขาก็ทิ้งท่าน ซานตานจึงเลือก “โยบ” เศรษฐีคนหนึ่ง ผู้ศรัทธาในพระเจ้า ให้เขา เป็นโรคร้าย ลูกๆตาย ฝูงสัตว์มากมายตาย จนกลายเป็นขอทานขี้เรือน แต่นั้นมิทำให้ศรัทธาในพระเจ้าหมดลง
พระเจ้าจึงสามารถลบคำปรามาสของซาตานได้ และพระองค์ตอบแทน โยบมากกว่าที่เขามีในอดีต
แต่ซาตานมิยอม ครั้งนี้ มันได้ ท้าทายในสิ่งที่ใหญ่กว่า นั่นคือ นับแต่นี้ มันจะปกครองโลก จะทำให้ไม่มีแม้ผู้ศรัทธาในตัวพระเจ้าหลงลืมพระองค์จนหมด พระเจ้าทรงยอม เพราะพระองค์เชื่อในบรรดาลูกๆที่พระองค์ทรงสร้าง ทุกวันนี้ ซาตานปกครองโลก มีแต่สิ่งชั่วร้าย แต่ มันจะมิเป็นไปตลอด
มันจะปกครองจนถึง วันพิพากษา (Armageddon) วันที่ระบบซาตานจะถูกทำลาย แล้ว มนุษย์ผู้ ผิดบาปจะกลับสู่ดิน (มิใช่ตกนรก) และผู้ที่ศรัทธาจะถูกปลุกจากดิน กลับสู่โลกใหม่นิรันด์
อ่านเพิ่มเติม การจับคอร์ดกีต้าร์ แมนเชสเตอร์ TeamViewer 15 What is MSN Messenge เกม Five M คืออะไร ? วิธีการเติมเงินเกมฟีฟาย 12 ข้อที่ชาวเน็ตควรรู้ Jokergame Joker Gamimg pgslot
อัพเดทล่าสุด : 24 พฤษภาคม 2021